IELTS Academic และ IELTS General Training ต่างกันยังไงนะ ?
IELTS Academic และ IELTS General Training ต่างกันยังไงนะ ?
สวัสดีค่ะช่วงนี้เห็นน้องๆหลายคนกำลังสนใจและหาข้อมูลการสอบ IELTS เพื่อที่จะเตรียมตัวสอบกันอยู่ แต่ก็มีบางคนที่อาจจะยังสับสนว่าตัวเองต้องเลือกสอบ IELTS แบบไหนกันนะ? แล้วทั้งสองแบบใช้แทนกันได้ไหม? วันนี้เราจะพามาหาคำตอบไปพร้อมๆกันค่ะ
IELTS หรือ International English Language Testing System เป็นการสอบวัดทักษะทางภาษา 4 ทักษะ ประกอบไปด้วย Listening (การฟัง) / Reading (การอ่าน) / Writing (การเขียน) / Speaking (การพูด) โดยจะแบ่งออกเป็นการสอบหลักๆที่เราคุ้นเคยคือ IELTS Academic และ IELTS General Training
แล้ว IELTS Academic และ IELTS General Training ต่างกันยังไง ?
IELTS ทั้งสองแบบนี้มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของจุดประสงค์การนำไปใช้และในเรื่องของเนื้อหาการทำข้อสอบ อย่างไรก็ตามก่อนจะสมัครสอบ พี่ขอแนะนำให้ตรวจสอบและศึกษาเงื่อนไขให้ละเอียดในแต่ละองค์กรหรือโครงการที่เราต้องการยื่นให้แน่ใจว่าเค้าต้องการผลสอบประเภทไหนก่อนสมัครสอบด้วยนะคะ
IELTS Academic สำหรับใช้ในการยื่นเรียนต่อต่างประเทศในระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก รวมถึงใช้ยื่นเข้าทำงานสำหรับงานที่ต้องการความสามารถทางทักษะภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ
IELTS General Training สำหรับใช้ศึกษาต่อต่างประเทศในระดับที่ต่ำกว่าปริญญา การเข้าร่วมฝึกอบรมวิชาชีพ การไปทำงานที่ต่างประเทศ และสำหรับการย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศ เช่น แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษและสหรัฐอเมริกา
เนื้อหาการสอบ
IELTS Academic | IELTS General | |
Listening | มีเวลา 30 นาที คำถาม 40 ข้อ โดยแบ่งเป็น 4 sections เป็นการฟังบทสนทนา บทบรรยาย บทพูดทั่วไป รวมไปถึงบทความเกี่ยวกับการศึกษา บทความเชิงวิชาการ การฝึกอบรมต่างๆ เช่น บทสนทนาเกี่ยวกับรายงานที่อจารย์สั่ง Lecture ในมหาวิทยาลัย เป็นต้น | |
Reading | เนื้อหามาจากบทความทางวิชาการ นิตยาสารวารสาร บทวิเคราะห์หนังสือ และหนังพิมพ์ | เนื้อหานำมาจากประกาศ โฆษณา หนังสือราชการ คู่มือ แผ่นพับ หนังสือพิมพ์ ตารางเวลา หนังสือ หรือนิตยสาร |
Writing | มีเวลา 60 นาที แบ่งเป็น 2 Tasks
| มีเวลา 60 นาที แบ่งเป็น 2 Tasks เขียนจดหมายทั้งแบบที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ เช่น การเขียนจดหมายเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือจดหมายอธิบายสถานการณ์ รวมถึงการเขียนแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องทั่วๆไปที่โจทย์ให้มา เป็นต้น |
Speaking | ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที โดยจะเป็นการสัมภาษณ์ด้วยคำถามทั่วๆไป และเป็นการพูดเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ |
จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 Modules มีบางพาร์ทที่เหมือนกันคือ Listening และ Speaking แต่จะต่างกันในส่วนของ Reading และ Writing ฉะนั้นอย่างลืมเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ อย่ารอจน last minute นะคะเพราะค่าสอบก็แสนแพงเหลือเกินค่ะ
สำหรับประเทศออสเตรเลียวีซ่าที่มีความเกี่ยวข้องกับน้องๆที่เราจำเป็นจะต้องใช้ผลคะแนน IELTS ก็คงจะหนีไม่พ้นวีซ่านักเรียน วีซ่าทำงานหลังเรียนจบ วีซ่า Work and holiday ไปจนถึงการยื่นขอวีซ่าพลเมืองฐาวร เป็นต้น
สำหรับวีซ่า Temporary Graduate Visa (Subclass 485) วีซ่าทำงานหลังเรียนจบออสเตรเลีย มี 2 ประเภทด้วยกัน คือ
- Graduate Work Stream Visa วีซ่าทำงานหลังเรียนจบสำหรับคนที่เรียนหลักสูตรต่ำกว่าวุฒิปริญญา
- Post-Study Work Stream Visa วีซ่าทำงานหลังเรียนจบสำหรับคนที่เรียนหลักสูตรปริญญาขึ้นไป
โดยทั้งสองประเภทนี้ต้องมีผลภาษาอังกฤษ IELTS 6.0 ทุก Band ไม่ต่ำกว่า 5.0 ซึ่งสามารถยื่นได้ทั้ง 2 แบบทั้งแบบ IELTS Academic และ IELTS General Training
เช่นเดียวกันกับ วีซ่า Work and Holiday และวีซ่าทำงานประเภททักษะหรือสายอาชีพที่สามารถนำไปสู่การยื่นขอ PR ได้ อาทิเช่น
- Skilled Independent visa (Subclass 189)
- State Nomination Visa (Subclass 190)
- Temporary Skill Shortage Visa (Subclass 482)
- Skilled Work Regional Visa (Subclass 491)
ก็สามารถเลือกใช้ผลสอบประเภทใดยื่นก็ได้ทั้งแบบ IELTS Academic และ IELTS General แต่ส่วนใหญ่คนจะนิยมยื่นแบบ General Module มากกว่าเนื่องจากตัวข้อสอบจะง่ายกว่าแบบ Academic ทำให้สามารถมีโอกาสทำคะแนนได้สูงกว่านั่นเอง
จะเห็นว่าในหลายๆกรณี IELTS Academic สามารถใช้แทน IELTS General ได้ เพราะโดยปกติการสอบ IELTS แบบ Academic จะมีเนื้อหาการสอบที่ยากกว่าและเป็นการทดสอบระดับภาษาที่สูงกว่าแบบ General training ดังนั้นหากเป็นการสอบที่ระบุไว้ชัดเจนว่าต้องเป็นแบบ IELTS Academic จะไม่สามารถใช้ผล IELTS แบบ Genneral Training แทนได้
สำหรับน้องๆคนไหนสนใจเรียนต่อคอร์สภาษา หรือคอร์สติว IELTS เพื่อเตรียมตัวสอบทางพี่ๆเอดูยังเราสามารถให้คำปรึกษาแนะนำและจัดคอร์สที่เหมาะสมให้น้องๆได้ไม่มีค่าปรึกษาเลยค่ะ ติดต่อได้เลยทุกช่องทางเลย